หลวงปู่แสง ญาณวโร (จันดะโชโต) ท่านได้ละสังขาร ในวันจันทร์ที่ 19 มิถุนายน 2566 ในเวลา 19.13 น. ณ วัดป่าดงสว่างธรรม จ. ยโสธร และได้มีพิธีพระราชทานเพลิง ในวันอาทิตย์ที่ 25 มิถุนายน 2566

” อาตมา บ่ มาเกิดอีกแล้วเด้อ ชาตินี้เป็นชาติภพสุดท้าย จะเข้านิพพานตามหมู่เพิ่น “

และในเช้าวันจันทร์ที่ 26 มิถุนายน 2566 พระอาจารย์ก้องเกียรติ จัตตะวิโล ได้นำคณะสงฆ์ขึ้น ไปเก็บอัฐิ พร้อมเถ้าอังคารหลวงปู่แสง ญาณวโร(จันดะโชโต) เหนือจิตกาธาน

หลวงปู่แสง ท่านได้ดับขันธ์เข้าสู่พระนิพพาน เหลือไว้เพียงอัฐิและเถ้าอังคาร
เป็นมรดกธาตุขันธ์สุดท้าย ในชาติภพสุดท้าย ให้ลูกศิษย์ได้พึงกราบไหว้ บูชา ระลึกถึงพ่อแม่ครูอาจารย์…

จุดกำเนิด

ขณะได้รับอังคารธาตุในห้องนิพพาน (ห้องที่หลวงปู่ท่านดับขันธ์) วัดป่าดงสว่างธรรม ขณะนั้น… เหมือนมีอะไรแทงเข้ามาในใจอย่างแรง และบอกว่า

ให้นำอังคารธาตุที่ถืออยู่ในมือ ไปสร้างพระมา ให้เป็นในรูปของพระพุทธ

หลังจากนั้น… จึงได้ปรึกษาหารือที่จะนำอังคารธาตุ หรือธาตุขันธ์หลวงปู่ มาทำ
เป็นองค์พระ โดยเลือกเป็นพระพุทธพิมพ์ปางสมาธิกลีบบัว

สมเด็จนิพพาน

พระสมเด็จเนื้อผงอังคารธาตุ ใช้ผงอังคารธาตุหลวงปู่เป็นหลัก
ผสมเพิ่มด้วยปูนเปลือกหอยป่นละเอียดและคลั่งพุทรา
ใช้น้ำผึ้งแท้เคี่ยวด้วยไฟอ่อนให้ข้นเหนียวเป็นตัวประสาร
และผสมด้วยเนื้อกะลาของพระปิดตามหากาฬ
ส่วนผสมทุกอย่างเป็นของธรรมชาติทั้งหมด ไม่มีเคมี หรือกาวใดๆทั้งสิ้น

จากนั้นนำไปคลุกเคล้าและนวดให้เนื้อเข้ากัน นำไปบ่ม ไปหมักในน้ำ เพื่อให้เนื้อ
ประสานรวมเป็นหนึ่งเดียว เป็นการรวมธาตุสร้างขันธ์ขึ้นมาใหม่

สมเด็จนิพพาพ จัดสร้างเพียงเนื้อเดียวด้วยเนื้ออังคารธาตุที่เป็นธาตุขันธ์หลวงปู่
มีความศักดิ์สิทธิ์สูงมาก หลวงปู่ท่านได้อยู่เหนือโลก เหนือพรหมไปนานแล้ว

สมเด็จนิพพาน ไม่ใช่วัตถุมงคล
แต่อยู่เหนือวัตถุมงคล

สมเด็จนิพพาน ไม่ต้องอธิษฐานจิต
เพราะศักดิ์สิทธิ์จนไม่ต้องอธิษฐาน

สมเด็จนิพพาน คือธาตุคือขันธ์
คือเถ้าอังคาร หลวงปู่แสง ญาณวโร

มรดกสุดท้าย ธาตุขันธ์สุดท้าย ในชาติสุดท้าย บ่ กลับมาแล้ว…

จำนวนการจัดสร้าง

สมเด็จนิพพานจัดสร้างทั้งหมด 299 องค์ แบ่งเป็น

1. ปิดทองด้านหน้าและด้านหลัง 50 องค์
2. ปิดทองเฉพาะด้านหน้า 249 องค์

วัตถุประสงค์ในการสร้าง

เพื่อน้อมระลึก รู้คุณ ครูอาจารย์
หลวงปู่แสง ญาณวโร

รวมธาตุสร้างขันธ์ใหม่ในรูปพระพุทธ
เพื่อให้ศิษยานุศิษย์ได้นำไปติดตัว กราบไหว้
บูชา เพื่อความเป็นศิริมงคล

ผู้ใดจักได้ครอง แล้วแต่บุญวาสนา
หลวงปู่ท่านเลือก หาใช่เราเป็นคนเลือก…

“อาตมาทำเองทั้งหมด กาวนี่ติดนิ้วติดมือเปื้อนไปหมด อาตมาเอาบาตรพระเป็นลูก บรรจุไว้ในล็อกเก็ตนี้ เหลือกินเหลือใช้”

หากจะนับวัตถุมงคลหลวงปู่แสง ญาณวโร (จันดะโชโต) มีมากมายหลายรุ่นที่ศิษยานุศิษย์สร้างมาถวาย ทั้งดำริหลวงปู่ให้จัดสร้างก็มี

ทั้งรุ่นที่เป็นกรณีพิเศษ ที่หลวงปู่ท่านดำริจัดสร้างที่วัด และเมตตาเททองด้วยองค์ท่านเอง

แต่… จะมีวัตถุมงคลรุ่นที่พิเศษ และเป็นเพียงรุ่นเดียวเท่านั้น
ที่หลวงปู่ท่านลงมือทำด้วยองค์ท่านเองทั้งหมด
ขณะหลวงปู่ท่านทำ ท่านจะอยู่องค์เดียว ไม่ให้ใครมาวุ่นวาย
ท่านจะกำหนดจิตและเพ่งกระแสจิตอยู่ตลอด ในขณะทำ

ล็อกเก็ตญาณวโร หรือ ล็อกเก็ตทำมือ หลวงปู่ท่านทำด้วยองค์ท่านเอง เมื่อปี 2541 ที่วัดป่าอรัญญาวิเวก (วัดบ้านไก่คำ) จ. อำนาจเจริญ

หลวงปู่ท่านทำเสร็จดีทุกอย่างแล้ว ท่านจะเก็บไว้ในย่าม และหลวงปู่ท่านได้บรรจุสิ่งที่เป็นมงคลไว้ในล็อกเก็ตด้วย นั่นคือ…

“อาตมาเอาบาตรเป็นลูกใส่ไว้ในด้านหลังนี้”

ทั้ง… ตัดแผ่นตะกั่ว จารอักขระแผ่นตะกั่ว และนำมาปิดที่ด้านหลังล็อกเก็ต

โดยหลวงปู่ท่านได้กล่าวว่า
(บันทึกบทสนทนากับหลวงปู่แสงที่ วัดป่าวิมุตติธรรม จ.อุบลราชธานี พ.ศ.2559)

“อาตมาเฮ็ดเองเบิด บ่ ให้ใครมายุ่ง มือนี่ (พร้อมยกมือขึ้น) เปื้อนไปด้วยกาว
นิ้วนี่ก็ เหนียวไปหมด (ท่านพูดไปหัวเราะไป) เฮ็ดรุ่นนี้รุ่นเดียว พอแล้ว.. บ่ เฮ็ดอีกแล้ว

ด้านหลังล็อกเก็ตนี่ อาตมาเอาบาตรเป็นลูกบรรจุไว้ในนั้น” (แปลความหมายกันเอาเอง)

จำนวนการสร้างล็อกเก็ต

หลวงปู่ท่านได้พูดไว้ว่า “มันกะนานแล้ว ให้จำแม่นๆว่าเฮ็ดจักอันมันกะจำ บ่ ได้

แต่ เฮ็ด บ่หลาย ว่าแม่น 12 อัน บ่ เกินนี่ดอก"

ในบรรดาวัตถุมงคลทั้งหมด จะมีวัตถุมงคลเพียงรุ่นนี้รุ่นเดียว ที่หลวงปู่ท่านทำด้วยองค์ท่านเอง ทุกอย่าง ทุกขั้นตอน

ตั้งแต่ บรรจุสิ่งมงคล ตัดแผ่นตะกั่ว ปิดหลังพร้อมจาร

ล็อกเก็ตรุ่นนี้ จึงเป็นที่ปรารถนาของเหล่าศิษยานุศิษย์ที่ต่างอยากครอบครอง
แต่ด้วยจำนวนน้อย เพียงแค่ประมาณ 12 องค์ ที่หลวงปู่ท่านได้ทำไว้ จึงเรียกว่า พลิกแผ่นดินหา ส่วนคนที่ครอบครองต่างหวงแหนเป็นที่สุด

แม่นางกวัก มหาเทพีผู้บันดาลความมั่งคั่ง ให้เจริญรุ่งเรืองด้วยทรัพย์สิน และเงินทอง

แม่นางกวักเป็นนารีเทพสายมู ที่คนไทยนิยมบูชา อยู่คู่คนไทยมาตั้งแต่สมัยอยุธยา บันดาลให้พ่อค้า แม่ขาย ร่ำรวยเป็นเศรษฐีกันมามากนักต่อนัก

แม่นางกวักเป็นผีที่บำเพ็ญจนเป็นเทพ ที่อยู่ใกล้ชิดมนุษย์ที่สุด ทำให้สื่อถึงง่ายและช่วยเหลือได้ง่าย ผู้ใดเมื่อบูชากราบไหว้และปรารถนาสิ่งใด แม่นางกวักจะทำให้ปรารถนาเป็นจริงแก่ผู้บูชา

แม่นางกวัก มีฤทธิ์ในด้านกวักเงิน กวักทอง กวักโชค กวักลาภ เรียกเงินเรียกทองให้ไหลมาเทมา และเป็นมหาเสน่ห์เมตตามหานิยม ทำให้เจริญรุ่งเรืองในด้านการค้าการขาย

เหรียญหล่อแม่นางกวักโภคทรัพย์ สร้างด้วยกรรมวิธีหล่อโบราณ เป็นเหรียญทรงเสมา

ขนาดเล็ก กำลังห้อยคอ ด้านหน้ามือขวาแม่นางกวัก กวักเรียกทรัพย์ มือซ้ายถือถุงเงินรับทรัพย์

ส่วนด้านหลังเป็นถุงเงินเก็บทรัพย์ใบใหญ่ ล้อมด้วยยันต์ นะ ชา ลี ติ ซึ่งเป็นคาถามหาลาภของพระสิวลี ปากถุงเงิน เป็นยันต์ตัวพุทธ (ยันต์เฉพาะหลวงปู่แสง)

หลอมรวมชนวนมวลสารสำคัญ

1. ชนวนพระกริ่งล่ำซำ (ผสมใส่ในเนื้อทองเหลือง)
2. ชนวนรูปหล่อปาฏิหาริย์ (ผสมใส่ในเนื้อทองเหลือง)
3. ชนวนเหรียญหล่อแสงจันทร์ (ผสมใส่ในเนื้อทองเหลือง)
4. แผ่นยันต์ทองคำจารมือหลวงปู่แสง (ผสมใส่ในเนื้อทองคำ)
5. แผ่นยันต์เงินจารมือหลวงปู่แสง (ผสมในเนื้อเงิน)
6. ก้านชนวนเนื้อทองคำ กับก้านชนวนเนื้อเงิน ใส่เพิ่มเข้าไปในเนื้อทองเหลืองกับเนื้ออัลปาก้า
7. ก้อนโลหะเก่าหลวงปู่มอบให้ในครั้งบูรณะเจดีย์สำเร็จ (หล่อเป็นเนื้อชนวนล้วน)

เหรียญหล่อนางกวักโภคทรัพย์เนื้อทองเหลือง ได้ใช้ทองเหลืองนอกจากประเทศออสเตรเลียเป็น ทองเหลืองเม็ดที่มีค่าความบริสุทธิ์ถึง 99.9% เมื่อนำมาหลอมทำให้เหรียญมีน้ำหนัก และ วรรณนะของผิวสวยงามดุจทองคำ

หลวงปู่แสง ญาณวโร (จันดะโชโต) ท่านได้เมตตาอธิษฐานจิตบรรจุพลังเหรียญหล่อโภคทรัพย์ ให้มีฤทธิ์เต็มกำลัง ทั้งแม่นางกวักได้รับรู้ และ ผู้บูชาสื่อถึงได้ง่าย
ในวันอังคารที่ 9 พฤษภาคม 2566

จำนวนการสร้าง

1. เนื้อทองคำ 6 เหรียญ
2. เนื้อชนวน 14 เหรียญ
3. เนื้อเงิน 32 เหรียญ
4. เนื้ออัลปาก้า 112 เหรียญ
5. เนื้อทองเหลือง 1,518 เหรียญ

ทำไมบางคนขยันทำงานมาทั้งชีวิต แต่ก็ไม่รวยสักที ชีวิตก็ยังยากลำบาก บุญก็ทำ กรรมก็ไม่ได้ก่อ แต่ทำเท่าไหร่ก็ไม่ประสพความสำเร็จ จะดีก็ไม่ดี ทำอะไรก็ติดขัดอยู่ตลอด

ชะตาชีวิตใครที่เป็นอย่างนี้ เหรียญแม่นางกวักโภคทรัพย์ช่วยได้

ให้บูชาเหรียญโภคทรัพย์ติดตัว การงานจะไหลลื่น ผู้คนจะหลั่งไหลมาอุดหนุน ขอให้ผู้บูชาทำมาหากินที่ไม่ผิดต่อศิลธรรม ให้ตั้งใจทำมาหากินด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ชีวิตจะมั่งคั่งและมั่งมี จะประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว ทันใจ

เคล็ดบูชานางกวักโภคทรัพย์

ก่อนที่นำเหรียญนางกวักโภคทรัพย์ขึ้นคอบูชาในครั้งแรก
ให้จุดธูป 9 ดอก ท่องนะโม 3 จบ แล้วตามด้วยคาถาหลวงปู่แสง
(พุทธะกันตัง ธัมมะกันตัง สังฆะกันจิต 1 จบ )

แล้วท่องคาถาบูชาพระแม่นางกวัก

เอหิจิตตัง มหาลาภัง ปิยัง มะมะ มามา ( 1 จบ )

แล้วให้ตั้งจิตอธิษฐานกล่าวว่า

“ข้าพเจ้า ชื่อ……. สกุล………….
น้อมนับถือแม่นางกวัก เสมือนแม่ทางโลกทิพย์
ขอแม่นางกวัก ช่วยลูกคนนี้ให้ทำมาค้าขึ้น
ให้เจริญรุ่งเรืองด้วยทรัพย์สินและเงินทอง
มหาลาภัง มามะ มามา สาธุ สาธุ สาธุ…”

จุดเริ่มต้น

เนื่องด้วย ตะกรุดล่ำซำทองคำจารมือ ยังเหลือ และเก็บรักษาไว้ตั้งแต่การสร้างพระกริ่งล่ำซำ เมื่อปี พ.ศ.2554 จำนวน 8 ดอก หลังจากที่บรรจุใส่ไว้พระกริ่งล่ำซำเนื้อเงิน และ ลูกอมล่ำซำตะกรุดทองคำ

ผ่านมาร่วม 12 ปี ตะกรุดล่ำซำทองคำ ที่ถูกเก็บรักษาไว้ ได้นำมากดไว้ในวัตถุมงคล มหากาฬพระปิดตา

พระปิดตามหากาฬ สร้างด้วยเนื้อกะลาเป็นเนื้อหลัก แล้วนำมาคลุกรัก ประกอบไปด้วย กะลาทั้ง 3 ที่เป็นกะลาทนสิทธิ์มีฤทธิ์ในตัว

1. กะลาไม่มีตา มหาอุตย์ แคล้วคลาด ปลอดภัย
2. กะลาตาเดียว มหาลาภ ค้าขาย เจริญรุ่งเรือง
3. กระลาสี่ตา มหาเสน่ห์ เมตตา มหานิยม

สามคุณฤทธิ์รวมเป็นหนึ่ง ทั้งมหาอุตย์ มหาลาภ และมหาเสน่ห์ รวมเป็น มหากาฬ ทั้งเสริมด้วย แร่บางไผ่ แร่กายสิทธิ์มีฤทธิ์ในตัว

เนื้อกะลาทั้ง 3 ได้นำมาบดผสมมวลสาร และ คลุกด้วยรัก เป็นตัวประสาร ได้น้ำหนักเนื้อประมาณ 9 ขีด นำไปกดพระจนหมดเนื้อ (กดมือ) ได้จำนวนพระทั้งสิ้น 94 องค์ ดังนี้

1. พระปิดตาหลังฝังตะกรุดทองคำล่ำซำ 8 องค์
2. พระปิดตาหลังเต็ม 3 โค๊ด 9 องค์
3. พระปิดตาหลังแบบ 1 โค๊ด 77 องค์

เมื่อกดเป็นองค์พระเรียบร้อย นำพระทั้งหมดมาตากลม จนเนื้อแห้ง แล้วนำเอาพระทั้งหมดไปจุ่มรัก แล้วตากให้แห้งอีกที จึงสำเร็จมาเป็น พระปิดตามหากาฬเนื้อผงกะลาคลุกรักจุ่มรัก

หลวงปู่เมตตาอธิษฐานจิต ในวันเสาร์ที่ 4 มีนาคม 2566 พร้อมพระกริ่ง 9 รอบ

มหากาฬพระปิดตาที่รวมเอา สุดยอดของเนื้อกะลาทนสิทธิ์ มาเป็นเนื้อหลัก อีกทั้งยังผสมผงแร่บางไผ่ แร่กายสิทธิ์มีชีวิต และ มีพุทธานุภาพสูง ยังได้รับการอธิษฐานจิต บรรจุพลังจากหลวงปู่แสง ญาณวโร (จันดะโชโต) ทำให้พระปิดตารุ่นนี้ เป็น มหากาฬทุกด้านได้สมบูรณ์สุด

เปิดชะตารับทรัพย์ ปิดรับดวงอับโชค เสริมด้วยมหาเสน่ห์เมตตามหานิยม อีกทั้งแคล้วคลาด และ ปลอดภัย

พระเนื้อผงกะลาชุดนี้ ใช้วิธีสร้างตามแบบโบราณ กะลาแต่ละใบเอามาป่น และกรอง นำไปสุมไฟไร่น้ำมัน จากนั้นจึงคลุกเคล้าให้เข้ากันด้วยรักน้ำเกลี้ยง นำไปหมักและนวดให้เนื้อเข้าที่ จากนั้นจึงนำมากดเป็นองค์พระ (กดมือทุกองค์)

นำพระไปตากลม จนเนื้อพระแห้งดีแล้ว จึงนำพระไปชุบด้วยรักน้ำเกลี้ยงอีกที แล้วนำพระไปตากให้รักแห้งและแข็งตัว

“พระปิดตามหากาฬใช้ระยะเวลาในการสร้างนานร่วม 3 เดือน“

พระปิดตามหากาฬ คือสุดยอดพระปิดตา ที่ดีทั้งนอกและดีใน ใช้เนื้อกะลาทนสิทธิ์ที่มีฤทธิ์ในตัว ทั้งอธิษฐานจิตโดยหลวงปู่แสง ญาณวโร (จันดะโชโต) ทำให้พระปิดตารุ่นนี้ เต็มเปี่ยมไปด้วยมหาพุทธคุณ มหาฤทธานุภาพ เป็นมหากาฬพุทธรานุภาพในทุกด้าน

กะลาทนสิทธิ์มีฤทธิ์ในตัว

แร่บางไผ่แร่มีชีวิตมีจิตวิญญาน

มหากาฬ

ในปี พ.ศ. 2565 เป็นปีที่หลวงปู่ท่าน มีอายุครบ 9 รอบ 108 ปี คณะศิษย์จึงปรึกษาหารือ จัดสร้างวัตถุมงคลขึ้นมาหนึ่งรุ่น

เป็นพระกริ่งฉลองอายุครบ 108 ปี นามว่า พระกริ่ง 9 รอบ

พระกริ่งรุ่นนี้จัดสร้างและถวายในเดือน มี.ค. 2566 เป็นเดือนสุดท้าย ในวาระครบ 9 รอบ (หลวงปู่ท่านนับไทย)

แร่บางไผ่แห่งคลองบางคูลัด

แร่ศักดิ์สิทธิ์ในแผ่นดินสยามนี้มีอยู่ที่เดียว คือที่ คลองบางคูลัด อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ย้อนหลังไป 10 ปี ที่แล้ว แร่บางไผ่แท้ๆยังพบเจอน้อย ปัจจุบันนี้ยิ่งหาได้ยาก

พุทธคุณในตัวของแร่บางไผ่

แร่บางไผ่เป็นธาตุกายสิทธิ์ มีฤทธิ์ในตัวมีพลานุภาพความศักดิ์สิทธิ์เข้มขลังสูง แร่บางไผ่เป็นแร่ที่มีชีวิต เฉกเช่นเดียวกับ เหล็กไหล ทุกประการ

แร่บางไผ่จะทำความปรารถนาของผู้ครอบครองให้สำเร็จ เป็นจริง ทั้งจะบันดาลโชค บันดาลทรัพย์ให้รุ่งเรือง และคุ้มครองป้องภัย

เมื่อไหร่ที่แร่บางไผ่ได้หลอมขึ้นเป็นองค์พระสำเร็จและประสิทธิ์ โดยพระสุปติปันโน จิตที่บรรจุพลังจะไปปลุกคุณฤทธิ์ทั้งหมดในแร่บางไผ่ ฤทธานุภาพจะถูกเพิ่มขึ้นไปอีกหลายร้อยพันเท่า เมื่อร่วมกับอภิญญาของพระสุปติปันโน จะเกิดมหาพุทธานุภาพ

พระกริ่ง 9 รอบ (ดีใน)

พระกริ่ง 9 รอบ หลวงปู่แสง ญาณวโร (จันดะโชโต) ได้หลอมขึ้นด้วยเนื้อ
แร่บางไผ่ (แร่เป็น) เป็นแร่กายสิทธิ์ที่มีฤทธิ์ในตัวเฉกเช่นเดียวกับเหล็กไหล
เป็นเนื้อที่จะทำการหล่อให้สำเร็จได้นั้น คณาจารย์ผู้สร้างผู้อธิษฐานจิตต้อง
มากด้วยบารมี จึงจะสำเร็จลงได้

พระกริ่ง 9 รอบ (ดีทั้งนอกและดีใน)

พระกริ่ง 9 รอบ เมื่อได้หล่อสำเร็จเป็นองค์พระ ได้รับการเมตตาจากพระอรหันต์เถระเจ้า หลวงปู่แสง ญาณวโร (จันดะโชโต) บรรจุพลังในพระกริ่ง 9 รอบ ทำให้พระกริ่งรุ่นนี้มีความศักดิ์สิทธิ์สมบูรณ์

มีฤทธานุภาพในแร่บางไผ่แบบเต็มกำลัง(ดีใน) และ ประสิทธิ์ด้วยจิตหลวงปู่แสงอีกกำลัง (ดีนอก)

กรรมวิธีการหล่อและพิมพ์ทรง

พระกริ่ง 9 รอบ ได้ใช้พิมพ์พระกริ่งจีนใหญ่ ทำให้มีลักษณะอวบอิ่มสมบูรณ์

ส่วนกรรมวิธีในการหล่อแร่บางไผ่ ได้ใช้แร่บางไผ่จำนวน 5 กิโล นำมาถลุง และคัดแยกดินออกจากแร่ ทำให้ได้เนื้อแร่ 2.3 กิโล

นำมาผสมชนวนด้วยเงินยวง และแผ่นยันต์จารมือ ทำให้ได้น้ำหนักรวม 3 กิโล
จากนั้นนำมาหลอมเทพระกริ่ง 9 รอบ

จำนวนการสร้าง

พระกริ่ง 9 รอบ ได้จัดสร้างทั้งหมด 108 องค์ เท่าอายุหลวงปู่ เป็นเนื้อแร่บางไผ่ทั้งหมด จะต่างเพียงฝาอุดเม็ดกริ่ง

หมายเลข 1-9 เป็นก้นทองคำ (ตามรอบอายุปีที่ 1-9 ของหลวงปู่)

หมายเลข 10-108 เป็นก้นเงิน (จำนวน 99 องค์ เมื่อรวมกับก้นทองคำเป็น 108 องค์ เท่าอายุหลวงปู่)

วันอธิษฐานจิต

พระกริ่ง 9 รอบ หลวงปู่ท่านเมตตาอธิษฐานจิต ในวันเสาร์ที่ 4 มี.ค. 2566 ในช่วงบ่าย เมื่ออธิษฐานจิตเสร็จดีแล้ว หลวงปู่ท่านก็แจกลูกศิษย์ทันที

พระกริ่ง 9 รอบ เนื้อแร่บางไผ่ พระกริ่งที่มีจิตวิญญาน ผู้ที่ครอบครองจะต้องดูแลโดยการแช่น้ำผึ้ง หรือชะโลมด้วยน้ำมันงา ส่วนที่ให้แช่น้ำคาวปลาต้องเป็นเม็ดแร่ก่อนขึ้นองค์พระ

พระกริ่งรุ่นนี้เป็นพระกริ่งมีชีวิต มีจิตวิญญาน รับรู้ความรู้สึกของผู้ครอบครอง ไม่ว่าจะปรารถนาสิ่งใด ปรารถนานั้นจะสำเร็จเป็นจริง

พระกริ่งรุ่นนี้มีชีวิตมีจิตวิญญาน

หลายผู้ที่ครอบครองได้รู้ได้เห็นด้วยตัวเอง

ทำให้สิ่งที่ปรารถนาสมปารถนา

แร่บางไผ่แท้ต้องมีชีวิตเฉกเช่นปิดตาหลวงปู่จันวัดโมลี

เจตนาการจัดสร้าง

เพื่อเป็นที่ระลึก เมื่อครั้งหนึ่งหลวงปู่ท่านไปกราบองค์พระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.พิษณุโลก

เหรียญหล่อชินราชา

ใช้งานหล่อแบบเบ้าประกบแม่พิมพ์ แกะจากหินสบู่ ทั้งด้านหน้า และ หลังเหรียญเมื่อถอดพิมพ์เสร็จ จึงนำพิมพ์มาประกบ จากนั้นแต่งขอบเหรียญให้เรียบร้อย

จากนั้นนำไปถอดพิมพ์และใช้งานหล่อแบบหล่อโบราณ เรียกว่า งานหล่อโบราณแบบเบ้าประกบ

เหรียญหล่อชินราชา ได้ขออนุญาตหลวงปู่จัดสร้างอย่างถูกต้อง หลวงปู่เมตตาอธิษฐานจิต ในวันอาทิตย์ที่ 15 ม.ค. 2566 ณ วัดป่าดงสว่างธรรม จ. ยโสธร

จำนวนการสร้าง

1. เนื้อทองคำ 5 องค์
2. เนื้อนวะโลหะ 35 องค์
3. เนื้อเงิน 50 องค์
4. เนื้อเหล็กน้ำพี้ 100 องค์
5. เนื้อสำริด 809 องค์
6. เนื้อต้นแบบเงิน 1 องค์

เหรียญหล่อชินราชา จัดสร้างโดยคณะศิษย์อุบล

ในยุคข้าวยากหมากแพงหลวงปู่ท่านรับรู้ถึงความทุกข์ยาก ลำบาก
จึงได้อุบัติเหรียญรุ่นนี้ขึ้นมาเพื่อบรรเทา และได้มีดำริ ในวันจันทร์ที่ 8
เดือน 8 ด้วยองค์ท่านเอง

“โก๊ะ… แก้ว… ไปเฮ็ดเหรียญมา บอกหมู่ บอกพวก ไผ๋ร่วมเฮ็ด ร่วมสร้าง
จะมีแต่ความร่ำรวย เหรียญนี้ ไผ๋มี ไผ๋ใช้จะมีแต่ความร่ำ ความรวย ไผ๋รวยอยู่แล้ว จะรวยยิ่งกว่าเก่า” วาจาสิทธิ์แห่งพระอรหันต์เถระเจ้า หลวงปู่แสง ญาณวโร (จันดะโชโต)

สัจจะวาจานี้เป็นสัมฤทธิ์ จะเกิดประสิทธิภาพผล ความสำเร็จความร่ำรวย อยู่เบื้องหน้า เมื่อหลวงปู่ท่านได้ดำริ ทางคณะศิษย์ล่ำซำพร้อมรับและสนองงานหลวงปู่ด้วยความตั้งใจ

แบบเหรียญ

ทางคณะศิษย์ล่ำซำ ได้หารือและสรุปว่า แกะเป็นเหรียญนั่งเต็มองค์ ล้อมด้วยฉายา ญาณวโรภิขุ (ตัวขอม) ส่วนด้านหลังให้วางอัฏฐบริขาร ด้านบนล้อมด้วยคาถาองค์หลวงปู่

งานแกะ

เหรียญร่ำรวย ใช้งานลงมีดแกะสด ผสมผสานด้วยช่าง 2 คน ที่เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ทำให้เหรียญลงตัวสวยงาม งานลายเส้น ดูมีพลัง ทำให้เหรียญมีบารมียิ่ง

วันอธิษฐานจิต

เหรียญร่ำรวยหลวงปู่เมตตาอธิษฐานจิตในบ่ายวันอาทิตย์ที่ 25 ก.ย. 2565
พร้อมทั้งสายสิญจน์ ล้อมวัตถุมงคลในการอธิษฐานจิต

ทั้งทำน้ำมนต์ประพรมวัตถุมงคล ด้วยก้านและดอกสะเลเต เป็นดอกไม้ที่หลวงปู่ท่านโปรดปรานมากเป็นที่สุด หลวงปู่ท่านเคยปารถว่า ดอกสะเลเตนี่กลิ่นของมันหอมฟุ้งกระจายไปทั่ว ทั้งแดนสวรรค์ เหล่าหมู่มวลเทพ เทวดา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย เขาชอบกัน

จำนวนจัดสร้าง เหรียญกรรมการ

1. เนื้อตะกั่วลองพิมพ์(หลังเรียบจาร) 1 เหรียญ
2. เนื้อชนวนนวะแก่ทองคำ 13 เหรียญ (ตอก999 ทุกเหรียญ)
3. เนื้อนวะขัดยาแดง 109 เหรียญ (ตอกหมายเลข 1-109)

ชุดทั่วไป

1. เนื้อทองคำ 59 เหรียญ (บาตรทอง)
2. เนื้อเงิน 499 เหรียญ (บาตรเงิน)
3. เนื้อดีบุก 29 เหรียญ
4. เนื้อสำริด 13,999 เหรียญ

ด้วยความสำคัญของเหรียญร่ำรวย เหรียญที่หลวงปู่ท่านอุบัติขึ้นมา เพื่อบรรเทาความทุกข์ยาก และให้พบเจอแต่ความสำเร็จ ทางคณะศิษย์ล่ำซำจัดจึงจัดสร้างเหรียญร่ำรวย เป็นเนื้อพิเศษทั้งหมด

เหรียญร่ำรวยผู้ใดที่ครอบครอง ขอจงใช้ติดตัว แล้วชีวิตจะประสบกับความสำเร็จ ร่ำรวย มั่งคั่ง ดั่งวาจาพระอรหันต์เถระเจ้า ซึ่งเป็นวาจาอันศักดิ์สิทธิ์

“ไผ๋มี ไผ๋ใช้ จะมีแต่ความร่ำ ความรวย ใครรวยอยู่แล้ว จะรวยยิ่งกว่าเก่า”

ชาติภพนี้เป็นชาติสุดท้ายก่อนจะเข้านิพพาน อาตมาได้ดำริเหรียญนี้ขึ้นมา เพื่อบรรเทาความทุกข์ยาก เมื่อพระพบเจ้าของต้องวาสนา ครั้นได้ครองดวงชะตาจะถูกพลิกฟื้นจะพบกับความสุขความร่ำรวยตลอดไป

ขอแสดงความยินดีกับเจ้าของผู้ต้องวาสนากับเหรียญร่ำรวยทุกท่าน

ในนามศิษย์ล่ำซำ ผู้สนองงานหลวงปู่ ได้ยึดมั่น ตั้งมั่นน้อมสร้างถวายเหรียญร่ำรวย ให้ดีที่สุด เท่าที่ศิษย์พึงกระทำได้

เหรียญร่ำรวย

ได้เป็นเจ้าภาพงานซ่อมถนนคอนกรีตรอบเมรุหลวงปู่ทั้งหมด เป็นเงินจำนวน 100,000 บาท

และเป็นเจ้าภาพจัดซื้อโต๊ะ-เก้าอี้ ถวายวัดป่าดงสว่างธรรม เป็นจำนวนเงิน 60,000 บาท

เหรียญสุขแสนกัลป์ (สุขแสนกัป ทรัพย์แสนกัลป์)

บ่ายวันอาทิตย์ที่ 19 พ.ค. 2562 หลวงปู่ท่านมีดำริให้อนุญาตจัดสร้างวัตถุมงคล แล้วให้นำมาถวายที่ วัดพุทธรัตนวนาราม จ.เชียงใหม่

หลวงปู่แสงท่านได้เคยกล่าวไว้ว่า “วัตถุมงคลของอาตมา เมื่อได้อธิษฐานจิตดีแล้วพุทธคุณนั้นจะคงฤทธิ์ไว้ตลอด เหมือนเชือกที่ตึงแล้วไม่มีหย่อน ต่อให้เอาไปฝังดินไว้เป็นกัปเป็นกัลป์ก็ไม่มีวันจืดวันจาง”

สุขแสนกัป ทรัพย์แสนกัลป์ ได้นำพยางค์แรกคือ “ สุข “ และ สองพยางค์สุดท้ายคือ”แสนกัลป์” นำมารวมกัน จึงเป็นที่มาของเหรียญรุ่นนี้ว่า “สุขแสนกัลป์” คือ สุขชั่วกัปชั่วกัลป์

การจัดสร้าง

เหรียญสุขแสนกัลป์ ได้ทำการแกะแม่พิมพ์แบบแกะสด โดยนายช่าง ที่เคยฝากผลงานเหรียญดังที่คลาสสิคเอาไว้มากมาย เน้นงานลายเส้น ทำให้เหรียญมีมิติสวยงามมีเสน่ห์ลงตัวยิ่ง

วันอธิษฐานจิต

เหรียญสุขแสนกัลป์ ได้นำไปอธิษฐานจิตใน วันพุธที่ 14 ส.ค. 2562 ประมาณเวลา 16.00 น. พร้อม พระอุปคุตคหบดี (ดูในหัวข้อ พระอุปคุตคหบดี)

หลวงปู่ท่านได้เมตตา “สัคเค” (เป็นบทสวดชุมนุมเทวดา) ด้วยองค์ท่านเอง ถึง 2 ครั้ง

ครั้งแรก ตอนที่รถกำลังขับเข้ามาในบริเวณวัด

ครั้งที่สอง ตอนนำวัตถุมงคล ลงมาถวายพร้อมทั้งอธิษฐานจิต

โดยหลวงปู่ท่านได้อัญเชิญ เหล่าเทพเทวดา ทุกหมู่เหล่า ทุกชั้นฟ้า หลังจากนั้นหลวงปู่ท่านได้กล่าวว่า “เทพเทวดา อินทร์ พรหม ยม ยักษ์ มากันเยอะเต็มไปหมดพวกนาคก็พากันมาจนแน่น ให้มากันเลยมากันเยอะๆ วัดนี้ถึงที่จะแคบ แต่ไม่ใจแคบ มากันให้หมดเลย”

จำนวนการจัดสร้าง

1. เนื้อทองคำตอก 999 จำนวน 1 องค์
2. เนื้อทองคำ จำนวน 9 องค์
3. เนื้อนวะโลหะ จำนวน 39 องค์
4. เนื้อเงิน จำนวน 42 องค์
5. เนื้อขันลงหิน จำนวน 36 องค์
6. เนื้ออัลปาก้า 2 โค็ต จำนวน 11 องค์
7. เนื้ออัลปาก้า จำนวน 100 องค์
8. เนื้อทองแดง จำนวน 4212 องค์

นับเป็นความโชคดีและวาสนาของ เหรียญสุขแสนกัลป์ และ พระอุปคุตคหบดี ที่เป็นวัตถุมงคลรุ่นแรก และรุ่นเดียวที่หลวงปู่ท่านได้เมตตา “สัคเค” (บทสวดชุมนุมเทวดา) อัญเชิญเทพ เทวดา ทุกหมู่เหล่า ทุกชั้นฟ้า ทั้ง อินทร์ พรหม ยม ยักษ์ พญานาคทุกสกุลด้วยองค์ท่านเอง

อมตะวาจา..
“ทุกอย่างบนโลกนี้มันมีเวลาของมัน
ถ้ายังไม่ถึงเวลา ทำยังไงก็ไม่มา
เมื่อถึงเวลาแล้ว ยังไงก็ต้องมา”

พระกริ่งอุปคุตคหบดี ได้รับอนุญาตให้จัดสร้างเมื่อวันอาทิตย์ที่ 19 พ.ค. 2562 ที่วัดพุทธรัตนะวนาราม จ.เชียงใหม่

พระกริ่งอุปคุตคหบดี เป็นวัตถุมงคลรุ่นแรกและรุ่นเดียวของหลวงปู่ ตั้งแต่มีการจัดสร้างวัตถุมงคลมา นับตั้งแต่วัตถุมงคลรุ่นแรกจวบจนปัจจุบันนี้เกือบ 30 ปี

บัดนี้ถึงเวลาแล้ว หลวงปู่ท่านเมตตาอนุญาตให้จัดสร้าง พระอุปคุตคหบดี นี้ขึ้นมา พระอุปคุตคหบดี มีพุทธคุณครอบจักรวาล เด่นทางด้านโภคทรัพย์ โชคลาภ ทรัพย์สมบัติ ทั้งยังปกป้องภัยพิบัติทั้งปวง ถึงเวลาที่เหมาะสม พระกริ่งอุปคุตคหบดีจึงได้จุติขึ้นมา ดั่งที่หลวงปู่ท่านได้กล่าวไว้ ว่า “เมื่อถึงเวลาแล้ว ยังไงก็ต้องมา “

ผู้ใดที่ได้ครอบครองพระอุปคุตคหบดี ชีวิตจะมีแต่ความมั่งคั่ง ร่ำรวย จะได้ทั้ง ลาภ ยศ บารมี ความสุข ความอุดมสมบูรณ์แบบยั่งยืน ให้สวดคาถาหลวงปู่ แล้วตามด้วยคาถาบูชาพระอุปคุต ขอให้ยึดมั่นและศรัทธา ชะตาชีวิตจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นทันที

การจัดสร้าง

พระอุปคุตคหบดี ได้จัดสร้างโดยการปั้นหุ่นเทียนขึ้นมาแล้วนำไปเทเพื่อให้ได้องค์ต้นแบบ หลังจากนั้นก็นำไปถอดพิมพ์ โดยทั้งหมดได้ใช้กรรมวิธีเทหล่อโบราณ

เมื่อเสร็จดีแล้วได้นำเนื้อเงิน และ เนื้อนวะโลหะไปปลอกผิว แล้วส่งให้ช่างเก็บงาน เพื่อให้ได้งานที่สวยงามสมบูรณ์

วันอธิษฐานจิต

พระอุปคุตคหบดี ได้อธิษฐานจิตใน วันพุธที่ 14 ส.ค. 2562 ในเวลาประมาณ 16.00 น. (ซึ่งบังเอิญตรงกับ วันพุธเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ) โดยขณะที่รถ ได้นำวัตถุมงคลมาถวาย และเลี้ยวเข้ามาในบริเวณวัด หลวงปู่ท่านได้นั่งหลับตาหลังจากนั้นท่านได้สวด “สัคเค” (เป็นบทสวดชุมนุมเทวดา) โดยการเปล่งวาจา (พิธีพร้อมกันกับเหรียญสุขแสนกัลป์)(ดูในหัวข้อเหรียญสุขแสนกัลป์)

เมื่อนำวัตถุมงคลทั้งหมดลงมาเพื่อถวาย หลวงปู่ท่านได้สวดบทชุมนุมเทวดาอีกครั้ง โดยเปล่งวาจาเสียงดังกังวาล จากนั้นหลวงปู่ท่านได้เมตตาอธิษฐานจิต

เมื่อเสร็จดีแล้วหลวงปู่ท่านได้กล่าวว่า “ เทพเทวดา อินทร์ พรหม ยมยักษ์ มากันเต็มไปหมด พวกนาคก็มาด้วย มากันเยอะเลย ถึงที่ของวัดจะคับแคบ แต่ใจไม่แคบ มากันให้เยอะๆมากันให้หมดเลย “

ณ.บัดนี้ ถึงเวลาแล้ว พระอุปคุตคหบดีหลวงปู่แสง จันดะโชโต อันทรงฤทธิ์ก็ได้ถือฤกษ์งามยามดี จุติขึ้นมาตามวันเวลาที่ถูกลิขิตเอาไว้แล้ว

การที่หลวงปู่ท่านได้สวด สัคเค (บทชุมนุมเทวดา) ด้วยองค์ท่านเองถึง 2 ครั้ง นับว่ามีความสำคัญยิ่ง โดยปกติแล้วไม่ว่างานบุญที่สำคัญ เช่น งานเปิด 3 แดนโลกธาตุ งานบุญกฐิน หลวงปู่ท่านจะมอบหมายให้เป็นหน้าที่ของพระอุปฐาก ที่เป็นลูกศิษย์ของท่านเป็นผู้นำสวดบทชุมนุมเทวดานี้แทน

นับว่าเป็นความโชคดีของ พระอุปคุตคหบดี และ เหรียญสุขแสนกัลป์ เป็นอย่างยิ่ง ที่องค์หลวงปู่ท่านได้เมตตาอัญเชิญเทพเทวดาทุกชั้นฟ้า ทุกหมู่เหล่า อินทร์ พรหม ยม ยักษ์ ทั้งพญานาคทุกสกุล ได้มาร่วมพิธีด้วยองค์ท่านเอง

จำนวนการสร้าง

1. เนื้อเงินก้นทองคำ 1 องค์ (องค์ต้นแบบ)
2. เนื้อเงินก้นทองคำ 29 องค์
3. เนื้อนวะก้นเงิน 1 องค์ (ตอก999)
4. เนื้อนวะก้นเงิน 34 องค์
5. เนื้ออัลปาก้าก้นทองเหลือง 47 องค์
6. เนื้อสำริดก้นทองเหลือง 348 องค์

พระอุปคุตเถระผู้ทรงฤทธิ์ สามารถผันเปลี่ยนชะตาชีวิต จากร้ายกลายเป็นดี จากทุกข์ให้เป็นสุข ขอเพียงระลึกถึงและน้อมใจถึงท่าน มั่นสวดคาถาบูชา ท่านจะบัลดาลความสุข โชคลาภ ทรัพย์สมบัติ ความอุดมสมบูรณ์ แบบมั่นคงมั่งคั่ง และยั่งยืนตลอดไป

*** จงสร้างด้วยศรัทธา อย่าสร้างด้วยกิเลสตัณหา ***
*** เมื่อถึงเวลาแล้ว ยังไงก็ต้องมา ***
*** จุติพุธเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ ณ.วัดป่าพุทธรัตนวนาราม ***

เหรียญกฐิน 61 (หล่อแสงจันทร์)

สืบเนื่องจากเหรียญหล่อแสงจันทร์ ที่หลวงปู่แสง จันดะโชโต(ญาณวโร) ท่านได้เททองหล่อพระชุดแสงจันทร์เมื่อวันที่ 17 ส.ค. 2557

พระชุดนี้ได้ทำการเททองหล่อพระที่วัด และทำการตัดเหรียญออกจากช่อพระที่เทไว้ทั้งหมด แล้วนำเหรียญทั้งหมดมาคัดแยก ส่วนเหรียญที่ไม่สวยหรือไม่สมบูรณ์จะถูกคัดแยกออกมาเพื่อนำไปหลอมเป็นชนวนในรุ่นต่อไป

เหรียญที่สวยสมบูรณ์ช่างได้ทำการตัดแต่งเดือยให้เรียบร้อยโดยทำที่วัดทั้งหมด แล้วนำถวายหลวงปู่ในนามรุ่น #เหรียญหล่อแสงจันทร์

ส่วนเหรียญที่ไม่สมบูรณ์ แต่เมื่อหล่อขึ้นมารูปเป็นองค์หลวงปู่แล้ว ลูกศิษย์จึงไม่กล้าหลอมทำลาย และได้เก็บรักษาไว้จนถึงปี พ.ศ. 2561

เหรียญหล่อกฐิน 61

ช่วงในปี 2561 นั้น หลวงปู่ท่านมีปรารถนาที่จะขึ้นภาคเหนือ เพื่อไปเผยแผ่ธรรม หลังจากเสร็จงานกฐิน ที่วัดป่าอรัญญาวิเวก (วัดไก่คำ) โดยในช่วงแรกหลวงปู่ท่านมีดำหริ จะไปพำนักกับหลวงพ่อไพบูลย์ สุมังคโล ที่วัดป่าเทพนิมิตร อ.เชียงของ จ.เชียงราย

ทางคณะศิษย์นำโดยเฮียโก๊ะ ได้นำเรื่องเหรียญชุดนี้ไปปรึกษากับพระอาจารย์ก้อง และได้มอบเหรียญหล่อชุดนี้ทั้งหมดให้กับพระอาจารย์

จากนั้นพระอาจารย์ก้อง ได้กราบเรียนหลวงปู่ และจะนำเหรียญหล่อรุ่นนี้ถวายในงานกฐินที่กำลังจะมาถึง พระอาจารย์และพระเณรจึงช่วยกันตัดแต่งเดือยให้ดูเรียบร้อย และนำไปตอกโค๊ด

ส่วนโค๊ดที่ตอกเหรียญกฐิน 61 จะเป็นโค๊ดตัว นะ กับตัว อุ

เมื่อเหรียญทั้งหมดเสร็จดีแล้ว จึงนำถวายหลวงปู่เพื่อแจกในงานกฐินในปีนั้นเลยจำนวนเหรียญที่ได้ทั้งหมดประมาณ 700 เหรียญ และจะมีเพียง เนื้อทองเหลืองเพียงเนื้อเดียวเท่านั้น

เมื่อถึงวันงานกฐิน หลวงปู่แสงท่านได้นำเหรียญชุดนี้ มาแจกในงานกฐิน ที่วัดป่าอรัญญาวิเวก (วัดไก่คำ) ร่วมกับเหรียญรุ่นอื่นด้วย โดยเหรียญหล่อกฐิน 61 หลวงปู่ท่านแจกญาติโยมผู้ที่มาร่วมงานไปประมาณ 200 เหรียญ

เมื่อเสร็จจากงานกฐิน หลวงปู่ท่านได้เดินทางขึ้นเหนือในวันนั้น และได้นำเหรียญหล่อกฐิน 61 ที่เหลือไปด้วย

เมื่อถึงภาคเหนือ หลวงปู่แสงท่านได้มอบเหรียญกฐิน 61 ที่เหลือทั้งหมดประมาณ 500 เหรียญ ให้ไว้กับ หลวงพ่อไพบูลย์ สุมังคโล ที่วัดป่าเทพนิมิตร อ.เชียงของ จ.เชียงราย